Kiss The Rain

วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

ก้าวเล็กๆ ของเด็กช่างฝัน


ก้าวเล็กๆ ของเด็กช่างฝัน 
กับความภาคภูมิใจ ในการทำนิตยสาร

________________________________________________________________________


Seasons Change (Art&Music)
การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ... สรรค์สร้างความสุนทรีย์



ก้าวแรก …


        การได้รับโจทย์ที่จะต้องทำนิตยสารสักเล่มนึง เป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับผมมากในตอนนั้น แล้วการได้ทำงานกับกลุ่มที่ไม่ค่อยได้ร่วมงานกันบ่อย ไม่ใช่กลุ่มเพื่อนที่สนิท ยิ่งทำให้การทำงาน และตีโจทย์ครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ 
Seasons Change ทำไมต้องชื่อนี้ เพราะแนวคิดของกลุ่มเราคือการนำเสนอศิลปะ และดนตรี มาผนวกกับฤดูกาล ที่เปลี่ยนแปลงไป ความรู้สึกของศิลปะ และดนตรีนั้นก็เปลี่ยนตามไปด้วย เป็นโจทย์ที่ท้าทายในการคิดงาน เป็นการสื่อสารแนวใหม่ที่ฉีกออกมาจากนิตยสารทั่วไป ที่ทุกอย่างจะในเล่มจะต้องนำเสนอศิลปะ ดนตรี ผ่านการเปลี่ยนแปลงของแต่ละฤดู มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็เชื่อว่าทำได้ พวกเราก็เลยตกลงกันที่จะทำนิตยสารเล่มนี้ขึ้นมา

ก้าวที่กล้า …





ผมเคยมีความคิด มีความฝันว่าสักวันหนึ่งจะเป็น บก. นิตยสาร หรือไม่ก็ครีเอทีฟ รายการโทรทัศน์ แล้ววันนึง เมื่ออาจารย์ให้ทำนิตยสาร และให้เสนอหน้าที่ที่ตัวเองอยากทำ ผมก็ไม่ลังเลใจเลย ที่จะเสนอตัวเองเป็น บก. เพราะโอกาสในชีวิตเราไม่ได้มีเข้ามาง่ายๆ เมื่อผ่านเข้ามาแล้ว ก็ควรจะคว้ามันไว้ ผมคิดแบบนี้เสมอ จึงทำให้ผมอยากท้าทายตัวเอง ว่าความฝันการจะเป็น บก.นั้น ผมจะทำได้หรือไม่ และมันใช่ทางของผมจริงๆ หรือเปล่า
เมื่อได้เป็น บก.นิตยสาร เหมือนเคยที่ฝันไว้แล้ว ผมก็พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เรียนรู้การทำนิตยสาร เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น การทำงานกับเพื่อนในกลุ่ม การพูดคุย ชี้แจง การแก้ไข ยังไงให้เพื่อนเข้าใจ และกล้าที่จะเสนอความคิดเห็นของตัวเองออกมา ช่วยกันทำให้งานออกมาดีที่สุด พยายามประคับประคองเพื่อนในกลุ่มในทำงานอย่างมีความสุข มีอะไรก็คุยกันตรงๆ อุปสรรคที่ผ่านเข้ามา ก็ช่วยกันแก้ไข แล้วผ่านมันมาได้ด้วยกัน ทำให้ผมในวันนี้รู้สึกดีมาก ที่ได้ทำหน้าที่เป็น บก. ทั้งในด้านความฝันของตัวเอง และด้านของการที่เพื่อนในกลุ่มยอมรับในตัวของผม ผมมีความสุขมาก แล้วก็สุขยิ่งกว่าเมื่อเพื่อนในกลุ่มทำงานด้วยความสุขอย่างแท้จริง 


ก้าวไปด้วยกัน …






การทำงานเป็นกลุ่ม ย่อมมีปัญหาบ้าง ในเรื่องของความคิดเห็นบางอย่างที่ไม่ตรงกัน แต่ทุกคนหันหน้าเข้าคุยกัน ก็ทำให้ปัญหาเหล่านั้นหายไป บางทีก็ต้องขอบคุณปัญหา อุปสรรคต่างๆ ที่เข้ามา เพราะทำให้เห็นว่าเพื่อนทุกคน จะอยู่เคียงข้างกัน ช่วยกันแก้ไข ช่วยกันฟันฝ่า แล้วก็ผ่านไปด้วยกัน เป็นภาพที่เห็นแล้วมีความสุข แม้จะเป็นการรวมกลุ่มที่ไม่สนิทกันมาก่อน แต่การทำงานในครั้งนี้ทำให้เราพูดคุย สนิทกันมากขึ้น มาใช้ชีวิตทำงาน กิน อดทน อดหลับอดนอนด้วยกัน ทุกคนให้กำลังใจ เสริมแรงในการทำงาน เพื่อนๆ ในกลุ่มก็อยากให้งานออกมาดีที่สุด เพราะคือความภาคภูมิใจของกันและกัน 
กลุ่ม Seasons Change ผมประทับใจมาก เพราะเมื่อมีการออกกองไปถ่ายแฟชั่น ซึ่งเล่มของเราจะมีหลายเช็ท เพื่อนๆ ทุกคนก็จะช่วยเหลือกัน ไม่ว่าจะทำพร็อบ เตรียมเสื้อผ้า แต่งหน้า ทำผม นายแบบนางแบบ ทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำงานด้วยความสุข รอยยิ้ม หรือแม้แต่ตอนใกล้จะปิดเล่มทุกคนจะมารวมตัวกัน ช่วยกันแก้ไข ช่วยกันคิด เป็นกำลังใจให้กันในตอนทำงาน ผมว่าผมโชคดีมากที่ได้อยู่กลุ่มนี้ และอยากร่วมงานกันอีกในงานต่อๆ ไป 



ก้าวถึงจุดหมาย(จุดหนึ่ง...)






วันที่ปิดเล่ม และส่งโรงพิมพ์ เป็นวันที่ผมรู้สึกว่าเหมือนยกความเครียดทั้งหมดออกจากตัว รู้สึกทุกอย่างมันเบา รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก อาจด้วยปัญญาที่เกิดขึ้นก่อนจะปิดเล่ม ที่โปรแกรมมีปัญหา จนทำให้ต้องมาเริ่มทำกันใหม่ พอผ่านมาได้ ถึงวันที่ปิดเล่มจริงๆ มันเป็นความสู้สึกของคนที่เหมือนได้รับชัยชนะ ชนะกับตัวเอง ที่ไม่ยอมแพ้ในวันก่อน วันที่ทุกคนช่วยกันพยุง สู้ด้วยกัน วาดฝันถึงวันที่เดินถึงจุดหมาย
เมื่อได้รับเล่มจริงจากโรงพิมพ์ เปิดอ่านนิตยสารเล่มแรกในชีวิต ที่ตัวเองมีส่วนร่วม ที่ตัวเองทำหน้าที่เป็น บก. ของเล่มนี้ ผมรู้สึกดีมาก ดีจนสติแทบแตก งานที่ร่วมกันทำเป็นเดือนๆ มันสำเร็จแล้ว ทุกอย่างโอเค ทุกอย่างลงตัวอย่างที่คิดไว้ แม้เงินที่เสียไป กับงานครั้งนี้จะเยอะเหมือนกัน แต่กลับรู้สึกคุ้มค่ามาก กับสิ่งที่ได้รับกลับคืนมา ประสบการณ์ดีที่ดี ความประทับใจ ความภาคภูมิใจกับผลงาน ผมยืนมองนิตสารของกลุ่มผมแล้วยิ้มได้ทุกครั้ง ภาพความทรงจำที่เพื่อนทุกคน ช่วยกันทำงาน ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมาด้วยกัน มันก็พลันขึ้นมาในหัว และผมก็กล้าที่จะนำเสนอให้คนอื่นได้ชื่นชมผลงานของกลุ่มผม ได้อย่างภาคภูมิ








         ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องขอขอบคุณ อาจารย์นัทธีรัตน์ พีระพันธุ์ ถ้าไม่ได้อาจารย์ นิตยสาร Seasons Change คงจะไม่เป็นนิตยสารที่สมบูรณ์ได้ขนาดนี้ ทั้งคำแนะนำ คำปรึกษา ความรู้ต่างๆ ที่อาจารย์ได้ถ่ายทอดให้พวกเรา ได้ทำนิตยสารเล่มแรกในชีวิต นิตยสารที่อบอวลไปด้วยความสุข มิตรภาพ ความทรงจำ ความภาคภูมิใจ และที่สำคัญทำให้ฝันของเด็กคนนึงอย่างผม เป็นจริงในการทำหน้าที่เป็น บก.นิตยสาร ขอบคุณมากๆ ครับ ... Seasons Change 







วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Square Stand


Square Stand 
กับบทบาทที่เป็นมากกว่าอุปกรณ์ชำระเงิน

_____________________________________



       สังคมที่กว้างใหญ่ไพศาล เต็มไปด้วยทรัพยากรมากมาย แหล่งอารยธรรมต่างๆที่หล่อหลอมก่อขึ้นความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้หลั่งไหลเข้ามา จนกระทั่งได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดเสียไม่ได้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่สังคม นั้นตระหนักถึงความสำคัญของเทคโนโลยี ได้เป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตในเกือบทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา , การจัดการธุรกิจ , การปกครอง , ความมั่นคงของชาติ ตลอดจนการสันทนาการและบันเทิง ปัจจุบันเราสามารถค้นคว้าข้อมูลได้จากทั่วโลก สามารถซื้อขายสินค้าผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และสามารถติดต่อกับบุคคล , สถาบัน และองค์กรได้อย่างไร้พรมแดน 
ทคโนโลยีสารสนเทศ ธุรกิจ กับการศึกษาเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร สิ่งที่ผมนำมาเสนอวันนี้อาจให้คำตอบกับใครหลายๆคนได้ ผมอยากนำเสนอในมุมมองใหม่ อีกมุมมองนึงที่เทคโนโลยีไม่ได้มีบทบาทแค่การศึกษาเป็นหลักเพียงเท่านั้น  เพราะสิ่งที่ผมหยิบยกขึ้นมานำเสนอแก่ท่านผู้อ่านในวันนี้เป็นเจ้าเครื่อง “Square Stand” ที่เป็นสินค้าใหม่ที่ใครหลายคนยังไม่รู้จัก และยังไม่เป็นที่แพร่หลายในเมืองไทยมากนัก วันนี้เราจะไปรู้จักกับการจ่ายเงินด้วยอุปกรณ์พกพาว่าเจ้าเครื่องเนี่ยจะมีหน้าตายังไง ทำอะไรได้บ้าง และเกี่ยวข้องกับการศึกษาได้อย่างไร


ระบบชำระเงินด้วยอุปกรณ์พกพา “Square Stand”


     Square Stand คือสแตนด์หรือแท่นสำหรับตั้งไอแพดที่ติดตั้งแอปพลิเคชั่นระบบบริการ

ณ จุดขาย Square Register เพื่อให้สำหรับการรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิต หรืออีกนัยหนึ่งก็คือเครื่องรูดบัตรนั่นเอง I-Pad+Square Register+Square Stand เทียบเท่ากับเครื่องคิดเงินตามเคาน์เตอร์ร้านค้าที่รูปลักษณ์ดูสวยงาม ไม่เกะกะเทอะทะ การใช้งานง่ายผ่านแอปพลิเคชั่นที่พัฒนามาอย่างเพียบพร้อมแล้ว  ขณะเดียวกันยังสามารถใช้บริหารงานขายผ่านไอแพดไปได้ด้วยและยังสามารถเชื่อมต่อกับพรินเตอร์สำหรับการออกใบเสร็จและการส่งต่อรายการสินค้า เช่น ออร์เดอร์ไปยังห้องครัว เชื่อมต่อกับลิ้นชักเก็บเงิน รวมถึงเครื่องสแกนบาร์โค้ดอีกด้วย เป็นผลิตภัณฑ์รับชำระเงินยุคโมบายที่เหมาะกับธุรกิจขนาดย่อม และราคาไม่แพง ขณะที่ประสิทธิภาพการใช้งานที่ไม่เพียงจะเหมาะกับกับธุรกิจร้านค้าเล็ก ๆ เท่านั้น เพราะเครือข่ายร้านกาแฟยักษ์ใหญ่สตาร์บัคส์ก็ยังใช้บริการของ Square และอีกไม่นาน Square Stand ก็จะถูกนำไปใช้ในร้านกาแฟสตาร์บัคส์ทั่วโลกอีกด้วย




     Square Stand นั้นเป็นความพยายามของ Square ในการช่วยให้ร้านค้าปลีกสามารถเปลี่ยนแท็บเล็ตอย่าง iPad ให้เป็นจุดรับชำระเงินหน้าร้านค้าปลีกที่ดูดีและใช้งานได้สะดวกสบาย ระบบตั้งวาง Square Stand จะสามารถบิดหมุนเพื่อให้ลูกค้าสามารถลากนิ้วเซ็นชื่อบนหน้าจอได้ทันทีอย่างมืออาชีพ
    ปัจจุบัน Square ให้ความสำคัญกับการประยุกต์ใช้ iPad เป็นเครื่องรับชำระเงินมากกว่า iPhone สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะปริมาณการทำธุรกรรม Square นั้นเกิดขึ้นบน iPad มากกว่า 50% ของรายการที่ทำบน Square ทั้งหมด โดยผู้ซื้อ Stand จะได้สิทธิ์ใช้งานซอฟต์แวร์ Register (สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS) เพื่อให้เจ้าของร้านค้าปลีกสามารถติดตามรายรับของร้านได้อย่างละเอียด



Square Stand กับบทบาททางธุรกิจ 
     ทคโนโลยีสารสนเทศได้บูรณาการเข้าสู่ระบบธุรกิจ กิจการจะอยู่รอดและมีพัฒนาการต้องสามารถปรับตัวและจัดการกับเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม ซึ่งเทคโนโลยีสารสนเทศมีผลต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต เพื่อให้ผู้บริหารในฐานะหัวใจสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศขององค์กรได้ศึกษา แต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้องค์กร กิจการร้านค้า บริษัทต่างๆต้องติดตามและสังเกตการเปลี่ยนแปลงนั้นแล้วนำมาประยุกต์ใช้
     Square Stand ก็เป็นเทคโนโลยีสารสนเทศตัวใหม่ของวงการธุรกิจ ที่หลายๆคนจับตามองด้วยความทันสมัยโดดเด่น ใช้งานง่าย ทำให้ Square Stand เข้ามามีบทบาทอย่างมากในกิจการการค้าต่างๆ เพราะในสังคมสมัยนี้อะไรที่สะดวก รวดเร็วและง่ายต่อการเข้าถึงจะเป็นที่ต้องการอย่างมาก ระบบชำระเงินด้วยอุปกรณ์พกพานี้ ก็ได้เข้ามามีบทบาทโลดแล่นอยู่ในวงสังคมธุรกิจ ที่พร้อมจะปรับตัวตามเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างสูงสุด 


    ดยที่เทคโนโลยี Square Stand นั้นได้พัฒนาไปพร้อมๆกันในทางที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆกับวงการธุรกิจ ทำให้การดำเนินชีวิตและการค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีสารสนเทศมิได้มีเพียงด้านดีอย่างเดียวเท่านั้น ยังคงมีข้อเสียอยู่มากมายขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ของมนุษย์ ว่าจะใช้เทคโนโลยีนี้ไปในทางที่สร้างสรรค์หรือทำลายซึ่งการที่จะพัฒนาสังคมให้มีศักยภาพได้นั้นนอกจากการพัฒนาเทคโนโลยีแล้วจำเป็นที่จะต้องพัฒนาจิตใจของคนในสังคมควบคู่ไปด้วย หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปนั้นก็จะทำให้เกิดอุปสรรคในการพัฒนา ผมมองว่าเราจึงควรตระหนักถึงคุณธรรมในการใช้งานควบคู่กันไปด้วยโดยไม่มีการปรับเปลี่ยนเพื่อการฉ้อโกงหรือการกระทำที่อันไม่เหมาะสมในการพัฒนาเพื่อเอาเปรียบลูกค้า


 Square Stand กับบทบาททางการศึกษา
     ครจะเชื่อว่าเจ้า  Square Stand หรือ เครื่องชำระเงินพกพานี้จะมาเกี่ยวข้องกับการศึกษาได้ ผมก็เทียบไม่เชื่อเหมือนกัน ถ้าไม่ได้ศึกษาด้วยตนเองและพบเจอเอง โดยผมนั้นได้พูดคุยกับน้องชายที่ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยรังสิต ในด้านของธุรกิจค้าปลีกระหว่างประเทศ น้องชายได้เล่าให้ฟังว่าอาจารย์ได้ได้นำเอา  Square Stand มาให้ทดลองใช้ในการเรียนการสอน ในการพัฒนาร้านค้าของตัวเอง โดยท่านอาจารย์ก็ให้ทุกคนเปิดร้านขายของออนไลน์เป็นของตัวเอง เปิดเว็บไซต์และมีหน้าร้านจริงที่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ทดลองทำธุรกิจและนำเครื่อง Square Stand มาใช้เพื่อความสะดวกของลูกค้าในการซื้อสินค้า 


      มมองเห็นแล้วว่าเทคโนโลยีสารสนเทศที่ถูกพัฒนาขึ้นก็ถูกนำมาใช้ควบคู่กับการศึกษา ที่พัฒนาและใช้ควบคู่กันไปตลอด เพื่อให้มีทักษะในการแสวงหาความรู้ และการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยตนเอง จนสามารถสังเคราะห์ ข้อมูลเป็นองค์ความรู้ใหม่ สามารถสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางด้านการเชื่อมโยงผลงานจากการประดิษฐ์คิดค้นทาง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจนเป็นนวัตกรรม และบริหารจัดการนวัตกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศให้เกิดประโยชน์เชิงธุรกิจ ใช้ความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสร้างความก้าวหน้าให้ประเทศชาติและความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจรรยาบรรณ ในวิชาชีพ และขีดความสามารถ ศักยภาพในการกำหนดแนวทางการบริหารจัดการเชิงธุรกิจกับการศึกษาอย่างเป็นระบบ


...........

   ลกาภิวัตน์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์มากขึ้นถ้าเรามอง
ในมุมเดียวคือมุมของการพัฒนาเราก็จะเห็นคุณค่าที่นับวันจะทวีคูณ ถึงการอำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ในมุมมองทางกลับกัน ก่อให้เกิดการบิดตัวของสังคมมนุษย์และสังคมโลกอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดปัญหาตามมามากมาย อย่างเช่น ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย หรือระหว่างประเทศยากจนกับประเทศร่ำรวยก็จะมีมากขึ้น คนร่ำรวยก็จะรวยมากขึ้น คนยากจนก็จะจนมากขึ้น ส่วนชนชั้นกลาง หรือมนุษย์เงินเดือนก็จะมีพฤติกรรมทางด้านการเงินที่ และการบริโภคที่เปลี่ยนไป วัยรุ่นก็จะก้าวเข้าไปสู่สังคมวัตถุนิยม ก่อให้เกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจ และสังคมอันเนื่องมาจากวัตถุนิยม และทุนนิยม รวมถึงอาชญากรรมที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในปีที่ผ่านมาแนวโน้มของการก่ออาชญากรรม โดยใช้เทคโนโลยีมีสูงขึ้นมาก เช่น การใช้เทคโนโลยีเพื่อการหลอกลวง ล่วงละเมิด ซึ่งผู้ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัยรุ่น ที่เข้าถึงและใช้งานเทคโนโลยี ซึ่งผมมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกิดจาก การที่ผู้ใช้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ผมเองก็อยากจะฝากท่านผู้อ่านทุกท่านไว้นะครับว่า ทุกอย่างล้วนมีด้านที่ดีและด้านที่ไม่ดี ขอเพียงเราเลือกที่จะนำด้านไหนมาใช้ ด้านไหนมาพัฒนาคุณภาพชีวิตของเรารู้เท่าทันและไม่ตกเป็นทาสหรือเหยื่อของเทคโนโลยี และหันมาเรียนรู้ที่จะพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศด้วย สมองสองมือคือสื่อสร้างสรรค์แนวทางที่แปลกใหม่ พัฒนาสารสนเทศให้ก้าวไกล พัฒนาสังคมไทยให้มั่นคง ไปด้วยกันนะครับ . ( : 





ขอขอบคุณ : https://squareup.com และ http://shop.rsushopa.com


วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

แหล่งเรียนรู้



คีรีวง ... ภูมิปัญญาแห่งขุนเขา
________________

    สวัสดีครับท่านผู้อ่าน วันนี้ผมขอนำพาไปสู่แหล่งเรียนรู้ที่บ้านเกิดของผมเองนั่นคือจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดที่พร้อมไปด้วยธรรมชาติอันหลากหลาย ทะเล ภูเขา ป่า น้ำตก และอื่นๆอีกมากมาย แต่มีอยู่ที่ที่หนึ่งได้ถูกกล่าวขานว่าเป็นสถานที่ที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทยหมู่บ้านเล็กๆกลางหุบเขา อุดมไปด้วยความสมบูรณ์ทางธรรมชาติและภูมิปัญญาชาวบ้าน นั่นก็คือ หมู่บ้านคีรีวง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช 





       ผมเองเป็นเด็กนคร หรือที่ใครๆก็เรียกว่าเด็กคอน เติบโตอยู่ในอำเภอเมืองที่ไม่ค่อยมีธรรมชาติมากนัก แต่เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมานี้ ผมได้มีโอกาสกลับบ้านและได้ไปเที่ยวค้างคืนที่บ้านเพื่อน อยู่ต่างอำเภอลึกเข้าไปในความเขียวครึ้ม กลางวงล้อมแห่งเทือกเขาหลวง ที่เป็นเสมือนหลังคาของแดนดินแห่งนี้ หมู่บ้านคีรีวง ก้าวแรกที่มาสัมผัสที่นี่ทำไมอากาศดีเหลือเกิน ได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านหลายคนมีชีวิตที่ไม่ต้องรีบเร่ง มีชีวิตที่เลี้ยงตัวเองได้ด้วยความพอเพียง ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น อยู่กับธรรมชาติอันแท้จริง ทำให้ผมนั้นเชื่อเหลือเกินว่า คำว่าวิถีชีวิตและการดิ้นรนต่อสู้ของคนคีรีวง คงจะเป็นเส้นทางที่มาดมั่นก้าวไปกับทางแห่งความสุขที่ก่อตัวขึ้นกับธรรมชาติและภูมิปัญญาในหุบเขาแห่งนี้ 





        หมู่บ้านคีรีวงเคยประสบภัยจากน้ำท่วมใหญ่  เนื่องจากที่ตั้งของหมู่บ้านอยู่ในหุบเขา แล้ววันหนึ่งเมื่อฝนตกหนัก น้ำจากเขาสูงก็ไหลบ่าเข้าถล่มหมู่บ้าน เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและบ้านเรือน จนเกิดร่องน้ำซึ่งกลายเป็นแม่น้ำเล็กๆ สายหนึ่งผ่ากลาง แบ่งหมู่บ้านเป็นสองฝั่งร่องน้ำ  นั่นก็คือสายคลองท่าดี ที่มีหินใหญ่น้อยเรียงรายกันเต็มไปหมด น้ำใสหลากไหลตัวเองมาจากเขาสูง  เป็นสายน้ำอันอุดมสมบูรณ์ ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่มาถึงคีรีวง เป็นต้องยืนมองคลองสายกว้างที่ไหลแทรกผ่านกลางหมู่บ้าน เป็นที่ที่เด็ก ๆได้ เริงร่าเล่นน้ำ สายตาทอดยาวไปด้านหลังของสายคลองท่าดี ก็จะเห็นเทือกเขาหลวงอันเขียวเข้มของผืนป่าและขุนเขาอันเป็นบ้านที่แท้จริงของคนคีรีวง ผมมองว่าความสูญเสียในครั้งนั้นก็มีด้านหนึ่งที่สูญหายไป โศกเศร้าเสียใจคนที่นี่ก็เช่นกัน แต่เมื่อคนเรานั้นได้ผ่านห้วงเวลาที่เลวร้าย เราจะเติบโตและแกร่งขึ้น ทำให้คนที่คีรีวงเขาเลือกกลับมาดูแลตนเอง เริ่มการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง เริ่มการรวมกลุ่มนำเอาภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีมาสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับตนเอง เลือกที่จะดูแลป่าเขา ไม่ทำลายบุกรุกผืนป่าเพื่อทำสวนผลไม้ ยอมรับกับผลผลิตที่ไม่ได้มากขึ้น หันมารวมกันในลักษณะกลุ่มอาชีพ และในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ คืออีกหนึ่งหนทางที่เปลี่ยนให้ผู้คนรู้จักการอยู่ร่วมกับธรรมชาติแห่งขุนเขา






      หลายคนคงสงสัยว่าหมู่บ้านคีรีวงที่ผมเกริ่นมาซะยาวเกี่ยวอะไรกับการเป็นแหล่งเรียนรู้ ผมจะพาไปพบคำตอบกันครับ ด้วยที่หมู่บ้านคีรีวงตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และชาวบ้านที่นี่นั้นก็ยังมีภูมิปัญญาชาวบ้านที่น่าสนใจ ที่หาเรียนรู้ได้ยาก แต่สามารถเรียนรู้ได้จากชาวบ้านคีรีวง


      กลุ่มมัดย้อม ของบ้านคีรีวง เมื่อเดินเข้ามาจะได้กลิ่นแปลกๆที่ผมยังจำได้จนถึงทุกวันนี้ มีการต้มใบไม้ลงในหม้อ น้ำค่อย ๆ เข้มสีเขียวขึ้นตามอุณหภูมิ เพื่อมาเป็นสีสันในการย้อมสี ผ้ามัดย้อมที่มีตัวหนีบแขวนเรียงราย รอเวลาแห้งเพื่อเปลี่ยนเป็นผ้าทอผืนสวยด้วยสีสันจากป่าเขา ที่ชาวบ้านสร้างสรรค์ขึ้นมาจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ สีที่ย้อมจะเป็นสีธรรมชาติจากต้นไม้ที่มีอยู่ในหมู่บ้าน มีสีกว่าพันสีที่ถูกสรรสร้างจากต้นไม้ ใบไม้ ในชุมชน ลายมัดย้อมเกิดจากการคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ ด้วยไม้ใผ่และหนังยาง เมื่อได้เห็นและสัมผัสแล้ว ทำให้ผมรู้ว่าชาวบ้านที่นี่เก่งจริงๆ




        กลุ่มลูกไม้  ชิ้นงานที่เกิดจากของเหลือจากป่าที่อยู่ในหมู่บ้านนั่นเอง เก็บลูกไม้ เศษหิน กรวด นำมาถักเชือกเข้ากับวัตถุดิบจากป่าเขา ผมได้มีโอกาสนั่งดูพี่เขาถักเชือกล้อมลูกไม้ต่างๆนานา มันกลายเป็นกำไล สร้อยคอ แหวนและอื่นๆได้อย่างน่าทึ่ง แม้กระทั่งลูกไม้ เศษหินต่างๆยังมีค่า สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จริงๆจากกลุ่มลูกไม้จริงๆคือนัยยะสำคัญของการใช้ชีวิตอีกอย่างนึงก็คือ การที่เราเห็นคุณค่าของสรรพสิ่งบนโลกนี้ ไม่มีอะไรด้อยค่ากว่าสิ่งใด ทุกอย่างมีคุณค่าในตนเอง ตั้งแต่เศษดิน ต้นไม้ใหญ่ หรือกระทั่ง ลูกไม้ เศษหิน ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้มาประกอบเป็นองค์รวมของโลกนี้ เราเองก็คงอยู่ไม่ได้





        กลุ่มสมุนไพร ที่โด่งดังที่สุดคงจะเป็น สบู่เปลือกมังคุด ที่ผมได้เห็นขั้นตอนการทำแล้วนั้นยากมากกว่าจะได้มาสักก้อนหนึ่ง สบู่เปลือกมังคุดที่นี่มีการทำการตลาดอย่างดี และบรรจุภัณพ์ที่ดูผ่านการสร้างสรรค์ด้วยเอกลักษณ์ของชุมนุม โดยเห็นได้จากป้ายและโล่ห์รางวัลต่างๆที่ทางกลุ่มนั้นได้รับ นับเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นแรงเสริมให้ชาวบ้านคีรีวง มุ่งพัฒนาและนำเสนอภูมิปัญญาชาวบ้านให้ไปไกลสู่สากล ผมรู้สึกอิ่มเอมใจมากและรู้สึกอดภูมิใจไม่ได้ ที่ตัวเองนั้นเกิดเป็นลูกหลานของชาวคีรีวงคนหนึ่งเช่นกัน 




        กลุ่มผลไม้ สวนผลไม้ที่คีรีวงค่อนข้างจะแตกต่างจากที่อื่นตรงที่ ที่อื่นจะเป็นสวนแบบปลูกอะไรก็คือชนิดเดียวทั้งสวนไปเลย แต่ที่นี่สวนผลไม้จะผสมกันหลากหลายชนิดในสวนเดียว หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า สวนสมรม คือการปลูกผลไม้ชนิดต่างๆแทรกตัวกันไป เวลาผลผลิตแต่ละฤดูกาลจะได้แตกต่างกันออกไปในพื้นที่เดียวกันและจำกัดในการไม่บุกรุกผืนป่าเทือกเขาหลวง 







หมู่บ้านคีรีวงกับการบูรณาการการเรียนการสอน 

       ผมมองว่าหมู่บ้านคีรีวงเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สามารถนำไปปรับใช้กับการเรียนการสอนได้ในระดับชั้นมัธยมศึกษา เรียนรู้ลักษณะของภูมิปัญญาท้องถิ่นที่จะนำไปสู่การเรียนการสอน เป็นองค์ความรู้และประสบการณ์ที่มีส่วนของคุณธรรม จริยธรรมสอดแทรกอยู่ด้วย เป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ประโยชน์สุขให้แก่ผู้เรียนและสังคมอย่างสอดคล้องกับธรรมชาติ อีกทั้งกระบวนการการเรียนการสอน ควรป็นการผสมผสานระหว่างความรู้สากลกับความรู้ท้องถิ่นให้ผู้เรียนได้คิดอย่างเป็นอิสระ  คิดได้หลายมุม สรุปเป็นความรู้และประสบการณ์ที่จะใช้ในการดำรงชีวิต โดยที่หมู่บ้านคีรีวงมีภูมิปัญญาชาวบ้านที่หลากหลาย สามารถให้ผู้เรียนเข้าไปศึกษาหาความรู้ สัมผัสและลงมือปฏิบัติได้จริง ชุมชนจะเป็นกลไก ให้ความรู้เกี่ยวกับความหมาย ความสำคัญของภูมิปัญญาชาวบ้านเพื่อสร้างความตระหนักในคุณค่า เกิดเจตคติที่จะร่วมกันรับผิดชอบ ในฐานะเป็นสมบัติของทุกคนที่จะร่วมกันอนุรักษ์ให้คงอยู่ ฟื้นฟูและพัฒนาอย่างเหมาะสม ปลูกฝังความรักความหวงแหนในคุณค่าและเอกลักษณ์ของภูมิปัญญาชาวบ้านว่าเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ เข้าใจเกี่ยวกับ ความคิด  ความเชื่อและหลักการ  ที่เป็นพื้นฐานขององค์ความรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่ถ่ายทอดกันมา การประกอบอาชีพในแต่ละท้องถิ่นที่ได้รับการพัฒนาให้เหมาะสมกับสมัย และแนวคิดหลักปฏิบัติ เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ชาวบ้านนำมาใช้ในชุมชน  ซึ่งเป็นอิทธิพลของความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

 ... ตัวตนของสะพานคือการก้าวข้าม พ้นผ่าน และเชื่อมโยงสองฟากฝั่งเข้าหากัน บางครั้งสะพานของคนที่นี่นั้นมีมาแล้วเนิ่นนาน สะพานที่เชื่อมชีวิตเข้ากับธรรมชาติอย่างกลมกลืน นำพาความสุขและความมั่นคงให้หลากไหลถ่ายเท เชื่อมโลกใบเล็กหลายใบเข้าด้วยกัน รวมถึงบอกกับโลกภายนอกด้วยว่าความสุขจริงแท้นั้นคือหนึ่งเดียว อาจต่างกันสักหน่อยตรงที่สะพานแห่งนี้มีทิศทางเป็นแนวตั้ง หยัดยืนขึ้นอย่างมั่นคง ยิ่งใหญ่ และอบอุ่น สะพานที่ซ่อนอยู่ในขุนเขา คีรีวง ... 










___________________________

         คีรีวง หมู่บ้านเล็ก ๆ เชิงเขาหลวงอันแสนยิ่งใหญ่ มากมายเรื่องราวความผูกพันของคนกับภูเขา เปี่ยมไปด้วยความงดงามของวิถีชีวิต สายน้ำตก เส้นทางเที่ยวป่า หรือบรรยากาศอันร่มรื่นยามอยู่ในตัวหมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านแห่งการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง


         คีรีวงเป็นหมู่บ้านที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จนได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (Thailand Tourism Awards) ประจำปี พ.ศ.2541 ประเภทเมืองและชุมชน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชุมชนคีรีวงได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูกาลผลไม้ออกชุกช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน

        การเดินทางจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ใช้ทางหลวงหมายเลข 4016 จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4015 บริเวณกิโลเมตรที่ 9 เลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้านคีรีวงไปอีก 9 กิโลเมตร หรือโดยรถสองแถวจากตลาดยาว ในอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช มีรถออกตั้งแต่เวลา 07.00 – 16.00 น. ค่าโดยสารคนละ 20 บาท 






 ... มหัศจรรย์คีรีวง ...




ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากการไปเจอประสบการณ์จริง : http://www.kiriwongtour.com 

วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557

คิดสร้าง ... คิดสรรค์


คิดสร้าง ... คิดสรรค์
___________________________________________________________________________

กล่องกระดาษที่เป็นมากกว่าบรรจุภัณฑ์





             ชีวิตคนเราตั้งแต่ตื่นนอน การใช้ชีวิตประจำวัน จนเข้านอนอีกครั้ง ได้พบเห็นสิ่งต่าง ๆ มากมาย ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นมีทั้งผลงาน ที่เป็นไปตามธรรมชาติ และผลงานจากฝีมือของมนุษย์เราเอง จะต้องมีการใช้สิ่งพิมพ์ต่างๆ ที่ผ่านกระบวนการออกแบบ ฉะนั้นการออกแบบสิ่งพิมพ์จึงมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตของเราเป็นอย่างมาก เพราะช่วยให้ได้รับความสะดวกสบาย ทั้งทางกายและทางใจ การออกแบบสิ่งพิมพ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในสังคม ที่มีอิทธิพลผลักดันให้สังคม มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา จากแนวความคิดหนึ่ง เปลี่ยนไปสู่อีกแนวความคิดหนึ่ง จากรูปแบบหนึ่ง เปลี่ยนไปสู่อีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งทำให้สังคมเราพบกับความแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา

          ารใช้สิ่งที่ผู้อื่นได้ออกแบบไว้ในชีวิตเรา การแสวงหาแบบตามที่มีคนได้ออกแบบไว้ตามต้องการ หรือ ถูกใจ หลายครั้งเราพบว่าสิ่งต่างๆ ที่เราใช้อยู่นั้นไม่ถูกใจเราทั้งหมด เราก็ต้องพอใจกับสิ่งนั้น แต่ในบางโอกาสเราสามารถคิดสร้างสรรค์ และออกแบบเพื่อตัวเราเองได้เช่นกัน แต่ในวันนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านทุกท่านไปรู้จักกับ บรรจุภัณฑ์ที่ผ่านการออกแบบมาอย่างลงตัว และมากกว่าการเป็นบรรจุภัณฑ์อีกด้วยจะเป็นอย่างไรนั้นเราไปพบเรื่องราวนี้ได้เลยครับ ...





" กล่องผลไม้ " 

ผลงานการออกแบบของ คุณมานิตย์ กมลสุวรรณ 
จัดพิมพ์โดย บริษัท คอนติเนนตัล บรรจุภัณฑ์ (ไทยแลนด์) จำกัด

รางวัลที่ได้ คือ "BEST CREATIVITY IN PRINTING APPLICATIONS & DESIGNS"
Ferrostaal Award ในงาน 6th Thai Printing Awards 2011 
งานประกวดสิ่งพิมพ์แห่งชาติครั้งที่ 6



       ลายๆคนคงเกิดคำถามว่าทำไมผลงานชิ้นนี้ถึงได้รับรางวัลนะ ทำไมถึงออกแบบแบบนี้ ต้องการสื่ออะไรออกมา ทำไมกล่องกระดาษจึงต้องออกแบบมาเป็นรูปผลไม้ แต่สำหรับผมแล้วสิ่งที่ผมมองเห็นในผลงานชิ้นนี้ที่เค้าได้รับรางวัล ก็คงเป็นสิ่งพิมพ์ที่ผ่านการออกแบบมาเป็นอย่างดี ผ่านกระบวนการคิดนำเอา ศิลปะการออกแบบจะต้องมีจุดเน้นให้เกิดสิ่งที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็น มีความรู้สึกร่วม ที่เกิดขึ้นเองจากตัวของสิ่งพิมพ์นั้น 


          ลงานกล่องผลไม้ ผมมองว่ามีสิ่งที่สัมพันธ์กัน เส้น สี เงา ลวดลาย ที่มีความสัมพันธ์กัน เป็นความรู้สึกของผู้พบเห็นหรือผู้ออกแบบจะรู้สึกในความงามนั่นเอง อีกทั้งผมคิดว่า เป็นความรู้สึกที่ไม่ซ้ำซากเกินไป   หรือเกิดความเบื่อหน่าย จำเจ ในการ ตกแต่ง เหมือนกับกล่องสี่เหลี่ยม วงกลม ธรรมดาทั่วๆเอามาใส่ผลไม้ กับกล่องที่เป็นรูปผลไม้ของชนิดนั้นๆก็สามารถบ่งบอกถึงตัวสินค้าข้างในได้ว่าเกี่ยวข้องกับอะไรได้อย่างชัดเจน มีความกลมกลืนของตัวบรรจุภัณฑ์และสินค้าภายใน รวมไปถึงกล่องมีการใช้สีที่ดึงดูด ใช้สีตามธรรมชาติของผลไม้แต่เป็นสีที่สด ชัดเจนและตัดกับเส้นที่มีลวดลายอย่างดี 

       หากมองในฐานะผู้บริโภคอย่างผม แน่นอนว่าองค์ประกอบหลายๆอย่างเช่น ความมีคุณภาพของสิ้นค้า ขนาดของสินค้า ความเหมาะสมของราคา การออกแบบสิ่งพิมพ์บรรจุภัณฑ์ หลักการออกแบบต่างๆแล้ว ผลิตภัณฑ์กล่องผลไม้นี้ก็สวยงาม และเหมาะสมกับสินค้ามาก เมื่อเห็นครั้งแรกก็สามารถรู้ได้เลยว่ากล่องนี้บรรจุสินค้าที่เกี่ยวกับอะไร นั่นก็คือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับผลไม้ มีความแตกต่างจากสินค้าชนิดเดียวกันของบริษัทอื่น บ่งบอกถึงสินค้า โดยที่อาจจะไม่ต้องดูฉลากสินค้าเลยด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าซื้อเป็นของฝากแล้วผู้ที่ได้รับจะต้องประทับใจและสามารถจำสินค้าชนิดนี้ได้ สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้อีกมาก เมืองไทยเป็นเมืองเกษตรกรรม มีผลไม้เป็นสินค้าส่งออกขึ้นชื่อ หากมีการนำไปสู่ตลาดต่างประเทศด้วยแล้ว ผู้ผลิตสินค้าและเกษตรกรที่ปลูกผลไม้ของไทยคงมีรายได้เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน ด้วยองค์ประกอบที่หลากหลายนี้เอง ผมคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้กล่องผลไม้ ผลงานของคุณมานิตย์ ได้รับรางวัล BEST CREATIVITY IN PRINTING APPLICATIONS & DESIGNS ในงานประกวดสิ่งพิมพ์แห่งชาติ ครั้งที่ 6 ครับ .





ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.l3nr.org/posts/540735