Kiss The Rain

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

เว้นว่าง ... เพื่อเติมเต็ม




เว้นว่าง เพื่อเติมเต็ม

          



ตั้งแต่เกิดมา แก้วน้ำได้ออกเดินทางไปเรื่อยๆ
ระหว่างทางก็มีคนคอยเติมน้ำให้อยู่เสมอ
จนวันหนึ่ง….น้ำจึงเต็มแก้วน้ำ
...
วันเวลาผันผ่าน แก้วน้ำได้ไปยังสถานที่ต่างๆ
พบสิ่งที่น่าสนใจมากมาย หลากหลาย
แก้วน้ำบางใบ เลือกจะเดินทางต่อไป
โดยปล่อยให้น้ำเต็มแก้วอยู่อย่างนั้น
เพราะคิดว่าการแวะถ่ายเทและเติมน้ำใหม่นั้น
เป็นการเสียเวลาและไร้ประโยชน์
...
แต่แก้วน้ำของเราใบนี้ เลือกที่จะแบ่งปันน้ำให้ผู้อื่น
เขาแบ่งน้ำให้ต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาอยู่ข้างทาง
และแบ่งให้กระต่ายน้อยที่หิวกระหาย
ดีกว่าการปล่อยน้ำให้ระเหยไปอย่างไร้ค่า
...
แก้วน้ำเดินทางเพื่อค้นหาและรับน้ำใหม่เสมอ
น้ำที่ได้รับนั้น บางครั้งเป็นน้ำค้างบริสุทธิ์จากยอดหญ้า
บางคราวก็เป็นน้ำฝนจากฟากฟ้า
บางครั้งเป็นน้ำขุ่นที่มีตะกอน
แก้วน้ำก็ต้องรับโดยผ่านการกลั่นกรองเสียก่อน
บางครั้งเป็นน้ำเน่าเสีย แก้วน้ำก็รู้จักที่จะปฏิเสธ
บางครั้งมีผู้รินน้ำให้ บางครั้งต้องตักเอาเองจากแม่น้ำ
บางครั้งก็ต้องรับน้ำจากต้นไม้อีกทอดหนึ่ง
...
แม้การถ่ายเทและรับน้ำใหม่อยู่เรื่อยๆนั้น
จะทำให้เหนื่อยอยู่บ้าง แต่แก้วน้ำ ก็รู้ดีว่า
เส้นทางของเขานั้น ยังอีกยาวไกล
ต้องพบแหล่งน้ำอีกหลากหลาย เจอสิ่งต่างๆอีกมากมาย
แม้ในชีวิตหนึ่ง แก้วน้ำยังมีหลายสิ่งที่ต้องทำ
แต่สิ่งที่เขาจะไม่หยุดทำเลย ก็คือ
การทำตัวเป็นแก้วน้ำ ที่พร้อมจะรองรับน้ำอยู่เสมอ
เพื่อให้การเดินทางครั้งนี้มีคุณค่า
รู้จักหารู้จักรับ….และ เว้นที่ว่าง เพื่อเติมเต็ม


ขอบคุณบทความดีๆ : จากหนังสือคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และ kritwat - talk สำหรับแรงบันดาลใจ


>>>>_______<<<<

                  ทุกครั้งที่มีความรู้ใหม่ ทุกครั้งที่มีคนมาสอนผม ทุกครั้งของทุกประสบการณ์ ทุกครั้งของเรียนรู้สิ่งต่างๆ สิ่งที่ผมพึงระลึกตัวเองอยู่เสมอว่า ผมนั้นเปรียบดั่งแก้วน้ำที่มีน้ำไม่เต็มแก้ว เป็นแก้วที่น้ำสามารถเติมได้ไม่เต็ม ไม่ล้น เพราะผมถือว่าทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าเราเปิดรับ ไม่ทำตนเป็นน้ำล้นแก้ว การเรียนรู้ ประสบการณ์ในสิ่งต่างๆเหล่านั้นย่อมเป็นบทเรียน เป็นประสบการณ์ เป็นการเรียนรู้ที่ล้ำค่าและยิ่งใหญ่เสมอ
          วันที่ 19 กันยายน 2556 ผมได้มีโอกาสฝึกประสบการณ์การฝึกงานกับสำนักสื่อเทคโนโลยีการศึกษา มศว ซึ่งผมได้เข้าไปฝึกงานในส่วนของห้องเรียนทางไกล ได้เรียนรู้ได้ฝึกปฏิบัติ ดังต่อไปนี้ครับ 




ช่วงเช้า : เริ่มการฝึกประสบกาณ์ฝึกงาน วันนี้ผมรีบตื่นเช้ามาก ตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ รีบสุดชีวิตเพื่อหาอะไรกินก่อนที่จะได้ลงมือทำงานอย่างจริงจัง ยอมนั่งเรือจากท่าเรือรามคำแหง มา มศว ปกติไม่นั่งเรือเลย เพราะเป็นคนที่ไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยงกับเรือคลองแสบแสนครับ เมื่อมาถึงสิ่งที่พี่ๆเค้าจัดเตรียมไว้ให้ คือ การเรียนรู้ห้องควบคุมการเรียนการสอนทางไกล ประสานมิตร องครักษ์ ได้เรียนรู้ถึงอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบการเรียนการสอนทางไกล วิธีการใช้งาน หน้าที่ของอุปกรณ์นั้นๆ ขั้นตอนการทำงาน และพี่ๆยังเปิดโอกาสให้ลองสัมผัส ได้ทำจริง ได้เรียนรู้ด้วยตนเองอีกด้วย

          ช่วงบ่าย : ได้เรียนรู้การตรวจสอบชุดเครื่องเสียง ได้ลงมือเช็คเครื่องเสียง จัดเตรียมอุปกรณ์ ลำโพง ไมโครโฟน เครื่องเสียงต่างๆที่จะใช้ในการสอบตรงของ มศว พี่ๆได้สอนการเชื่อมต่อลำโพง การปฏิบัติงานจริง การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเวลาเครื่องเสียงมีปัญหา พี่ๆเป็นกันเองมากครับ สนุกสนาน ได้ทำจริง และได้ความรู้ด้วย

          ช่วงเย็น : ได้เรียนรู้ถึงวิธีการดูแลบำรุง ซ่อมแซมรักษา และปิดห้องเรียนทางไกล ว่าควรจัดเก็บ ตรวจเช็คอุปกรณ์ต่างๆ ความพร้อมๆต่างๆที่จะต้องใช้ในวันต่อไป แล้ววันนี้ก็จบลงไปอีกวัน ที่เป็นวันที่น่าจดจำอีกวันหนึ่ง

ความรู้สึกหลังฝึกงาน 

          ผมมีความรู้สึกประทับใจต่อพี่ๆสำนักสื่อที่ให้ความรู้และความเป็นกันเองในการฝึกประสบการณ์ครั้งนี้ ผมว่าคุ้มค่ามากกับเวลา 1 วันที่เสียไปโดยไม่เปล่าประโยชน์ ผมรู้สึกว่าชีวิตผมมีคุณค่ามากที่ได้เรียนรู้ และได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน หรือในบางเรื่องที่พอรู้อยู่บ้างก็นำสิ่งที่ได้มาเติมเต็มเข้าไป ทำให้มองภาพรวมขององค์ความรู้และการทำงานนั้นชัดเจนยิ่งขึ้น ได้เรียนรู้การจัดการระบบ การแก้ปัญหาต่างๆ ความรับผิดชอบ การตรงต่อเวลา ที่บางเรื่องในตอนที่เรียนเราอาจละเลยไป แต่พอเวลาทำงานจริงๆบางสิ่งก็ไม่สามารถทำได้เหมือนตอนที่เราเรียน หลายๆอย่างเหล่านี้ทำให้การฝึกประสบการณ์การทำงานครั้งนี้ของผม จะทำให้ผมพัฒนาตนเองให้เป็นคนที่มีคุณภาพยิ่งๆขึ้นไป ขอบคุณครับ


  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น